ขั้นตอนที่ควรทำเมื่อตู้แช่เย็น "ไม่เย็น"
หาก ตู้แช่เย็น เกิดอาการไม่เย็นหรือไม่สามารถทำความเย็นได้ตามปกติ อาจเกิดจากหลายสาเหตุที่สามารถแก้ไขได้ หากเราทราบปัญหาที่เกิดขึ้น ต่อไปนี้คือขั้นตอนที่ควรทำเมื่อตู้แช่เย็นไม่เย็น :
- 1. ตรวจสอบการตั้งอุณหภูมิ
ตรวจสอบการตั้งอุณหภูมิ : อาจมีการตั้งอุณหภูมิของตู้แช่ผิดไปจากที่ต้องการ ตรวจสอบว่าอุณหภูมิที่ตั้งไว้นั้นเหมาะสม (โดยทั่วไป 2-8°C สำหรับโหมดแช่เย็น และ -18°C หรือต่ำกว่าสำหรับโหมดแช่แข็ง)
ลองปรับอุณหภูมิใหม่ : หากการตั้งอุณหภูมิผิดพลาด อาจลองปรับไปที่ระดับที่เหมาะสมแล้วรอดูผล - 2. ตรวจสอบการเปิด-ปิดประตู
ประตูตู้แช่ไม่ปิดสนิท : หากประตูไม่ปิดสนิทอาจทำให้อากาศเย็นรั่วออกไปและเครื่องทำความเย็นทำงานหนักเกินไป ควรตรวจสอบยางขอบประตูว่าไม่หลวม, บิด, หรือเสียหาย
ตรวจสอบการตั้งตำแหน่งของประตู : หากพบว่าประตูไม่ปิดสนิท อาจจะต้องปรับตำแหน่งของประตูหรือเปลี่ยนยางขอบประตูใหม่ - 3. ตรวจสอบไฟฟ้า และการจ่ายกระแสไฟ
ไฟฟ้าไม่จ่าย : ตรวจสอบว่าเครื่องเสียบปลั๊กอยู่หรือไม่ และไม่มีปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายไฟ เช่น สายไฟขาดหรือปลั๊กหลวม
ฟิวส์หรือเบรกเกอร์ขัดข้อง : ตรวจสอบฟิวส์หรือเบรกเกอร์ว่าไม่ได้ตัดการจ่ายไฟจากตู้แช่ หากมีปัญหาควรเปลี่ยนฟิวส์หรือรีเซ็ตเบรกเกอร์ใหม่ - 4. ตรวจสอบคอมเพรสเซอร์
คอมเพรสเซอร์ไม่ทำงาน : คอมเพรสเซอร์เป็นหัวใจหลักในการทำความเย็น หากคอมเพรสเซอร์ไม่ทำงานอาจเป็นเพราะ
- ระบบไฟฟ้าขัดข้อง
- คอมเพรสเซอร์เสียหาย
- ระบบการระบายความร้อนของคอมเพรสเซอร์บล็อกหรือไม่ทำงาน
ตรวจสอบเสียงจากคอมเพรสเซอร์ : หากคอมเพรสเซอร์ทำงานแต่เสียงผิดปกติ เช่น เสียงดังหรือหยุดทำงาน ควรติดต่อช่างเทคนิคเพื่อตรวจสอบและซ่อมแซม - 5. ตรวจสอบการสะสมของน้ำแข็ง (Frost)
น้ำแข็งเกาะตามคอล์ย (Coil) หรือช่องระบายความร้อน : น้ำแข็งที่เกาะอยู่ในส่วนของคอล์ยหรือช่องระบายความร้อนอาจทำให้ระบบไม่สามารถทำความเย็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แก้ไข : หากพบการสะสมของน้ำแข็ง ควรละลายน้ำแข็งด้วยการปิดเครื่องและปล่อยให้น้ำแข็งละลายเอง ห้ามใช้เครื่องมือที่อาจทำให้คอล์ยเกิดความเสียหาย - 6. ตรวจสอบการไหลเวียนของอากาศ
ไม่มีการระบายอากาศที่เพียงพอ : หากการระบายอากาศภายในตู้แช่ไม่ดี เช่น ชั้นวางของแน่นเกินไปหรือวัตถุดิบวางแน่นจนปิดช่องระบายอากาศ อาจทำให้ตู้แช่เย็นไม่ได้เต็มประสิทธิภาพ
จัดระเบียบวัตถุดิบ : ควรจัดวางอาหารให้มีช่องว่างระหว่างกันเพื่อให้ลมเย็นไหลเวียนได้สะดวก - 7. ตรวจสอบสารทำความเย็น (Refrigerant)
สารทำความเย็นรั่วหรือขาด : หากตู้แช่เย็นขาดสารทำความเย็น (R-134a, R-410A, หรือสารอื่นๆ ขึ้นอยู่กับประเภท) ระบบทำความเย็นอาจจะทำงานได้ไม่เต็มที่หรือไม่ทำงานเลย
การแก้ไข : การเติมสารทำความเย็นควรทำโดยช่างผู้เชี่ยวชาญ เพราะเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เครื่องมือเฉพาะในการวัดและเติม - 8. ปัญหาจากพัดลม หรือมอเตอร์
พัดลมหรือมอเตอร์เสียหาย : หากพัดลมระบายความเย็นหรือมอเตอร์ไม่ทำงานอาจส่งผลให้การกระจายความเย็นไม่ดี
การแก้ไข : หากพบว่าไม่มีการหมุนของพัดลมหรือเสียงผิดปกติจากมอเตอร์ ควรติดต่อช่างซ่อมแซมเพื่อเปลี่ยนหรือซ่อมพัดลม/มอเตอร์ - 9. ตรวจสอบปัญหาจากตัวควบคุมอุณหภูมิ
ตัวควบคุมอุณหภูมิผิดปกติ : หากตัวควบคุมอุณหภูมิไม่ทำงานอาจทำให้ระบบไม่ทำความเย็นตามที่ตั้งไว้
การแก้ไข : หากตรวจพบว่าตัวควบคุมอุณหภูมิไม่ทำงานหรือมีปัญหา ควรติดต่อช่างเพื่อทำการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนตัวควบคุม - 10. เรียกช่างเทคนิค
หากตรวจสอบทุกอย่างแล้วยังไม่สามารถหาสาเหตุที่ทำให้ตู้แช่เย็นไม่เย็นได้ ควร ติดต่อช่างเทคนิค หรือศูนย์บริการที่มีความเชี่ยวชาญในการซ่อมแซมตู้แช่เย็น เพื่อตรวจสอบและแก้ไขปัญหาอย่างละเอียด
ปัญหาตู้แช่เย็นไม่เย็นอาจเกิดจากหลายสาเหตุ เช่น การตั้งอุณหภูมิผิด, ปัญหาจากคอมเพรสเซอร์, การสะสมของน้ำแข็ง, หรือการไหลเวียนของอากาศไม่ดี ซึ่งสามารถตรวจสอบและแก้ไขได้ตามขั้นตอนข้างต้น หากไม่สามารถหาสาเหตุหรือปัญหาที่เกิดขึ้นได้ ควรติดต่อช่างเพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวิเคราะห์และซ่อมแซม
บทความที่เกี่ยวข้อง
ตู้แช่เย็น สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน ลดความยุ่งยาก และรักษามาตรฐานของอาหารได้